เฮ้อ..เกือบไปแล้วไหมหล่ะ วันนี้ซือเจ๊มีนัดไปกินมื้อเที่ยงกับเพื่อนๆ WordPress ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ OOTOYA ตรงศาลาแดง หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จซือเจ๊กับเพื่อนก็เดินทางไปดูสถานที่เรียนภาษาสักหน่อย แต่วันนี้เพื่อนไม่มีเรียนซะงั้น ก็เลยไปเดินเที่ยวที่ วัดแขกแล้วก็แวะไปกินเค้กกันพอกินเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ตอนแรกซือเจ๊กะจะกลับรถไฟฟ้า แต่ด้วยความอยากถึงห้องเร็วๆเริ่มเมื่อยเดินเยอะไปหน่อย ก็เลยเดินลงมาตรงสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง จากนั้นก็เห็นแท็กซี่คันหนึ่งสีม่วงๆจอดอยู่ เจ๊ก็ตรงเข้าไปถามว่าไป.. ไหมเค้าพยักหน้าเจ๊ก็ขึ้นไปนั่งตามปกติ เนื่องจากว่าที่พักของเจ๊กับศาลาแดงไม่ห่างกันมากเท่าไหร่ข้ามสะพานตากสินไปก็ถึงแระ ปกติไปไหนมาไหนส่วนใหญ่เจ๊ก็นั่งแท็กซี่ประจำ ดูจะเป็นปกติและคุ้นเคยกับความสบายไปหน่อย(อีกแล้ว)
ระหว่างนั่งรถไปเจ๊ก็ดูวิวห์ข้างทางและฟังเพลงไปตามปกติไม่ได้สนใจคนขับ เนื่องจากไม่ระแวงหรือแอะใจอะไรเลยเนื่องจากมันยังกลางวันแสกๆอยู่ และอีกราวๆ 10 นาทีจะสี่โมงเย็น แดดเปรี้ยงๆกันเลยแหล่ะ สักพักหนึ่งมันเลี้ยวไปทางช่องนนทรีย์ ซะงั้นอะเจ๊ก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันก็ไปสะพานตากสินได้อยู่ดี สักพักเริ่มผิดปกติอีตรงรถจอดติดไฟแดงนี่แหล่ะ ที่เจ๊เริ่มจับตามองคนขับ มันทำท่าทางลุกรี้ลุกรนชอบกล ระหว่างที่รถติดไฟแดงและกำลังรอสัญญาณไฟเขียวอยู่ แล้วมันก็มองเจ๊ผ่านกระจกก่อนที่มันจะเอี้ยวตัวไปฝั่งคนขับแล้วแอบก้มหน้าทำอะไรสักอย่าง พร้อมกับหันหน้ามาปรับช่องแอร์จากนั้นเจ๊ก็เริ่มรู้สึกอึดอัด แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก และมึนหัวขึ้นมาตะหงิดๆคล้ายจะหมดสติ ก็เลยแอะใจ..เอาแล้วไหมหล่ะกูโดนแล้ว รถเริ่มออกตัวแต่เนื่องจากรถติดมาก พอหมดสัญญาณแล้วยังคงเหลือรถอีก 2 คันที่ยังต้องติดไฟแดงต่อ รอบสองรวมทั้งแท๊กซี่คันที่ซือเจ๊นั่งมาด้วย ไอ้คนขับมันก็บ่นแบบลุ้นๆว่าอีกสามคันเอง เจ๊ก็เลยรีบคว้าประตูเปิดกระจกออกก่อนไม่งั้นเจ๊ตายแน่ๆเพราะหายใจไม่ออกเลยมันแน่นและจุกหน้าอกไปหมด จากนั้นก็รีบปลดล๊อครถ ระหว่างที่กำลังเปิดประตูปากก็ถามมันว่าฉีดอะไร..มันบอกน้ำหอมครับ เท่านั้นแหล่ะเจ๊รีบเผ่นลงรถแล้วก็โดนโซเซมือกุมขมับด้วยความมึนหัว กะว่าจะเรียกสติตัวเองสักหน่อย แล้วก็เดินผ่านรถหลายๆคันที่เขากำลังมองซือเจ๊อยู่ว่าทำไมอยู่ดีๆเดินลงมาจากรถทั้งๆที่รถอยู่เลนด้านขวามือด้วย เจ๊ก็ไม่สนใจรีบเดินไปเลยตอนแรกกะจะหันมาถ่ายรูปรถและหน้าคนขับพร้อมป้ายทะเบียนรถเอาไว้แจ้งความสักหน่อย แต่ด้วยความที่เริ่มมึนหัวมากขึ้น ยืนแทบจะไม่ไหวแล้วก็เลยคิดว่าเอาตัวให้รอดก่อนดีกว่าเผื่อมันวิ่งตามมา จากนั้นเจ๊ก็วิ่งไปขึ้นรถไฟฟ้าช่องนนทรีย์ ตรงนั้นมีร้านอาหารชื่อเล็กซีฟู๊ดซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านพอควร ระหว่างขึ้นบันไดรถไฟฟ้า เจ๊ก็โทรศัพท์หาเพื่อนที่พึ่งแยกย้ายกันกลับ พร้อมเล่ารายละเอียดให้ฟังด้วยน้ำเสียงตกอกตกใจและกระหืดกระหอบ หายใจไม่ทัน แล้วก็พยายามหายใจเอาอากาศดีๆเข้าไปไล่อากาศเสียออกให้หมด จึงรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย ก็เลยรีบเดินทางกลับที่พัก พอมาถึงก็นึกถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นซือเจ๊ไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้ารถไม่ติดไฟแดงเจ๊จะเป็นยังไงเนียะ เท่าที่คิดได้ตอนหลัง ถ้าเกิดมันยังขับต่อไปโดยที่เจ๊ยังมีสติอยู่ งานนี้มีโดดรถ ยอมตายเว้ยเป็นไงเป็นกัน..
ไม่รู้ว่าด้วยอะไรที่ทำให้เจ๊รอดพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้มาได้ แต่ซือเจ๊ก็ขอขอบคุณจริงๆและสัญญาว่าจะกลับไปทำบุญตอบแทนให้อย่างแน่นอน กลับมาถึงห้องตอนแรกกะจะไม่เขียนแล้วแต่คิดไปคิดมาเตือนภัยให้คนอื่นรู้ด้วยดีกว่า เพราะที่ผ่านๆมาซือเจ๊ก็เคยได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวเตือนภัยแนวๆนี้มาเยอะเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะโดนกับตัวเอง ยังไงก็ขอขอบคุณคนที่เคยส่งเมลล์เตือนภัยทาง mail ให้คนอื่นทราบด้วยนะคะ ขอให้สิ่งดีๆตอบแทนพวกเขาเช่นกัน ตอนนี้ซือเจ๊ขอเตือนผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตามขอเตือนทุกๆคนนั้นแหล่ะ เวลาไปไหนมาไหนให้รู้จักช่างสังเกต และให้มีสติอยู่ตลอดเวลานะ อย่าไว้ใจ และ อย่าประมาท สังคมทุกวันนี้อันตรายจริงๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกสวะสังคมแบบนี้มันจะหมดไปสักที ยังไงก็ขอให้ทุกคนที่ต้องใช้รถแท๊กซี่หรือต้องเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถแท๊กซี่เป็นประจำ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในทุกๆครั้งที่ใช้แท๊กซี่นะ ขอให้เดินทางไปและกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยทุกคนและทุกครั้ง
อีกครั้งสำหรับรูปพรรณของรถแท๊กซี่คันนั้น คันสีม่วงๆทะเบียน ทล.3753 หรือ 2 นี่แหละไม่แน่ใจคนขับรูปร่างท่วมอายุราวๆ 35-40 ปี
สาเหตุที่จำทะเบียนได้ก็เพราะรู้สึกเอะใจเลยมองและจำไว้เผิดๆไม่ได้ตั้งใจจำซะทีเดียวมองผ่านๆตา..
ว่าแล้วเจ๊ต้องไปทำบุญยกใหญ่แล้วมั้งเนียะ..ไม่ไหวแล้วน่ากลัวเจงๆ..นี่ขนาดกลางวันแสกๆ แถมเจ๊ก็แต่งตัวมิดชิดในชุดลำลองธรรมดาๆอีกต่างหากไม่ได้เว้าๆแหว่งๆหรือออกแนวโป้หรือยั่วยวนเลยนะ.. เฮ้อคนมันจะชั่ว ขอให้ได้รับผลแห่งการกระทำของตัวเองโดยเร็ว..
Update ข้อมูลเพิ่มเติม 16-Dec-2008
ขอเพิ่มเติมบทเรียนและข้อผิดพลาดที่ได้เจอตอนที่ประสบเหตุนะคะ
1 เวลาได้กลิ่นอะไรแปลกๆอย่าพยายามสูดหายใจเพื่อพิสูจน์กลิ่นเด็ดขาด เพราะนั่นหมายถึงว่าเราจะโดนยามากขึ้น เพราะเหตุที่เจ๊มึนหนักเพราะพยายามจะสูดลมหายใจพิสูจน์กลิ่นนี่แหล่ะ เลยได้รับเยอะขึ้น บอกได้เลยว่ายาตัวนี้แรงมากโดนแล้วมึนต๊๊บ ถ้าไม่รู้จักสังเกตตัวเองสักพักจะเคลิ้มหลับไป ถ้าอยู่ดีๆเกิดรู้สึกง่วงเนียะ ให้รีบลงเลยอย่ามัวทำตัวเป็นนางเอกอยู่ นี่ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร
2 เวลานั่งรถ ต้องสังเกตพฤติกรรมของคนขับอย่าให้คลาดสายตา อย่ามัวแต่ชมวิวห์หรือฟังเพลง หรือเพลิดเพลินกับสิ่งรอบข้าง เพราะคนขับคือคนแปลกหน้าไม่ใช่คนที่เราจะไว้ใจได้
3 ถ้าสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติหรือเริ่มได้กลิ่นอะไรอันเป็นเหตุให้เกิดอาการผิดปกติกับร่างกายเราแล้ว ให้รีบหาทางลงจากรถให้ได้โดยเร็ว ไม่ต้องเสียดายเงิน เปลี่ยนคันใหม่ไปเลยหรือไม่ก็ลงจากรถต้องสงสัยให้ได้ก่อน อย่าง๊กเด็ดขาด เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย
แล้วก็ล่าสุดที่เจ๊ได้รับข้อมูลจากหลายๆคน และหลายๆกระทู้ ต่างยอมรับกันว่าช่วงนี้เรื่องแท๊กซี่มอมยาระบาดหนักมากวันที่เจ๊โดนก็มีอีกหลายๆคนโดนและรอดมาได้ก็มาเล่าไว้เหมือนกันที่เว็บพันทิพย์ ลองไปอ่านที่นี่ และ ที่นี่บอกรายละเอียดดีมาก เวลาอ่านก็พยายามอ่านคอมเม้นเขาด้วยนะคะ เขามีแชร์เล่าให้ฟังด้วยบางคนที่เคยโดนมาแต่ไม่ได้เขียน
จากที่คุยกับหลายๆคนเขาบอกว่าโดนทั้งผู้หญิงและผู้ชายอย่างที่บอกหล่ะคะว่า จุดประสงค์ในการวางยาต่างกัน และมีวิธีการในการวางยาต่างกันด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน ใครที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้แล้ว ช่วยแชร์ประสบการณ์ที่ตัวเองรู้มาไว้ด้วยก็ดีนะคะ เผื่อจะได้ป้องกันภัยไว้ล่วงหน้า สังคมมันแย่ทุกคนในสังคมต้องช่วยกันสอดส่อง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน อีกเรื่อง ตอนนี้สิ่งที่พยายามหาข้อมูลอยู่คือ
1 .>ยาสลบที่พวกมันใช้มีชื่อว่าอะไร และใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะหมดสติ โดนแล้วมีอันตรายต่อระบบหายใจหรือเปล่า ทำไมมันหาซื้อได้ง่ายจัง หรือว่าหาซื้อตามแหล่งนักเที่ยวกลางคืน แล้วตำรวจไปไหนหว่า..แต่มีผู้รู้บอกว่าหาซื้อได้ตามเว็บ และเว็บเคยโดนปิดไปพักหนึ่งแต่ตอนนี้กลับมาอีกแล้ว
2 .>พวกมันใช้วิธีไหน ถึงป้องกันตัวเองได้จากฤทธิ์ยา มีคนบอกว่าพวกมันจิบน้ำบ่อยๆ
3.> พวกมันใช้วิธีไหนบ้าง ในการรมยาพวกเรา เพราะจากที่ศึกษามามีหลายวิธีมากๆ
น่ากลัวว่ะ …
ผิดปกติมากๆ เลย ผู้โดยสารเดินลงจากรถ แต่มันขับไปเลยเนี่ยนะ … สงสัย “โดน” จริงๆ แล้วล่ะ น่าเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจริงๆ นี่ไม่รู้ทำมากี่ครั้งแล้ว สำเร็จไปกี่ครั้งแล้วไม่รู้ รายต่อไปจะเป็นยังไงบ้าง ???
กรรม!
ขุนอรรถ
@ขุนอรรถ ซือเจ๊โดนจึง มึนจริง ไม่ใช้สลิงไม่ใช้ตัวแสดงแทนคะ
ตอนนี้ก็ยังรู้สึกมึนๆอยู่เลยคะ ยาสลบอะไรฟร่ะโคตรแรง ผ่านไป 6 ชั่วโมงแล้วยังไม่หายเลย นี่ขนาดโดนแป๊บเดียวนะเนียะ ดีทีเจ๊เอาผ้ามาปิดจมูกไว้แล้วก็รีบเปิดประตูและหน้าต่าง ก่อนที่จะตัดสินใจลงจากรถ..
คุณอรรถคิดเหมือนซือเจ๊เลยคะ ว่ามันคงทำมาหลายรอบแล้ว แท๊กซี่ๆดีๆเขาคงไม่พกยาสลบติดรถไว้อย่างนี้หรอก เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะสุ่มตรวจค้นดูหน่อยคงดีเน้อ อย่างน้อยก็กรองไว้แต่เนิ่นๆ เพราะถ้ามีการตรวจคัน มันคงเก็บซ่อนไว้อย่างดี พอเก็บซ่อนไว้อยางดี กว่ามันจะควักออกมาใช้งานได้ พวกเราก็คงรู้ตัวกันแต่เนิ่นๆแล้วอย่างกรณีเจ๊เป็นต้นมันผิดสังเกตจนเห็นได้ชัด
เฮ้อนี่ขนาดเจ๊ไม่โดนยังสยอง และหลอน ซะขนาดนี้ คนที่โดนรังแก เขาจะรู้สึกขนาดไหน งานนี้มีฆ่าตัวตาย.. คิดแล้วอารมณ์เสียอยากฆ่าคนชั่วเว้ย..
ไม่เป็นไรนะครับคุณพี่ เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้ว จะมีแต่เรื่องดีๆเข้ามา ถือว่าฟาดเคราะห์ส่งท้ายปีเน๊อะพี่เน๊อะ เรื่องนี้ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจให้คนอื่นๆได้ๆ
น่ากัวจิงๆ สังคมสมัยนี้
แต่เจ๊เนี้ย…สติเป็นเลิศนะ
ถ้าแหม่ม…สงสัยได้รับร่างอันไร้วิญาณแน่ๆ
แต่…ไม่เป็นไรนะเจ๊ถือว่าโชคดีแล้วที่รอดมาได้
สู้ๆ สู้ต่อไปในหลวงที่วุ่นวาย สับสน อันตรายรอบด้านแบบนี้
เห้อ…พูดแล้วคิดถึงบ้านนอกเน๊อะ
@น้องหนึ่งเองครับ ขอบใจมากจ้า..พี่ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นแหล่ะ
ปีนี้เจ๊ปีชง ต้องทำบุญๆเยอะๆ จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาได้ เรื่องบางเรื่องชะตากำหนดให้เจอ ก็จำเป็นต้องเจอ.. ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเจ๊ไม่ทำบุญไว้เนียะจะเจอหนักกว่านี้ไหม… ไม่อยากจะคิดเลยเจงๆ..
@หนูแหม่ม ขออย่าให้เรื่องร้ายๆแบบนี้เกิดกับใครอีกเลยรวมทั้งหนูแหม่มด้วยจ้า เรื่องสตินี่มีส่วนพอควรนะ พอเจ๊เปิดประตูได้แต่ยังไม่ลงอะนะเปิดก่อนกลัวมันกด auto lock หน่ะ ยังมีหน้าไปถามมันอีกนะว่า “ฉีดอะไรหรือเปล่า?” มันบอกครับฉีดน้ำหอม เท่านั้นแหล่ะเจ๊นึกในใจ “น้ำหอมป้าเมิงเหรอไร้กลิ่นแต่มึนซะขนาดนี้เนียะ ตูเผ่นหล่ะเชิญเมิงดมน้ำหอมของเมิงคนเดียวเหอะ”
ท่านั้นแหล่ะเจ๊ก็สวมหลวงพ่อโกยแบบไม่ลังเล เลยหล่ะ..
น่ากัวอะเจ๊
ดีน่ะตั้งสติได้ ระวังตัวด้วยเน้อ!!!
@ก้านคอ จ้าขอบใจมาก น้องปิ่นก็ระวังตัวเช่นกันเน้อ..!!
ระวังตัวหน่อยเพื่อนนนน
เราบอกแล้ว ให้นั่งรถเมลล์ เพื่อนไม่เชื่อ
จะให้ดี อย่าไปไหนมาไหนคนเดียวจิ
จะได้ปลอยภัยหน่อยยย
(แต่ลึกๆ ตูอยากมีเพื่อนขึ้นหน้า 1 มั่งอะ อิอิ – ล้แเล่นนะเพื่อน)
@กระเป๋าเป้ อืมมปกติเราไม่ค่อยไปไหนมาไหนอยู่แล้ว นานๆเราจะไปที ใครชวนเราออกจากบ้านวันเสาร์-อาทิตย์ได้นี่ คนคนนั้นไม่ธรรมดาหว่ะ เอิ๊กๆ..
โหย น่ากลัวจัง เคยอ่านแต่ใน forward mail ไม่คิดว่าจะเจอแบบใกล้ตัวขนาดนี้ เมื่อก่อนถ้าเลือกได้ก็ไม่นั่งtaxi แต่เดี่ยวนี้ต้องนั่งไปทำงานทุกวันเช้าเย็น ทำไงดีล่ะนี่
ดีนะ ซือเจ๊มีสติดีมากๆ เอาตัวรอดมาได้
บุญรักษานะ
@donal03 คิดซะว่าฟาดเคราะห์หว่ะ…ระวังตัวด้วยแล้วกันสงสัยบ้านนี้เมืองนี้เวลาจะไปไหนทีต้องพกปืนด้วยแล้วมั้งเนียะ ว่าแต่คืนนี้เจ๊จะนอนสะดิ้ง เอ้ยไม่ใช่สะดุ้งทั้งคืนไม่เนียะ หลอนหว่ะ..ยังตกใจไม่หายเลยหว่ะ ซือเจ๊ต้องการคนปลอบ!!!!!!!!!!
น่ากลัวมากครับ ไม่น่ามีแท๊กซี่ยังงี้อยู่เลย เฮ้อออ
@เก่ง จริงๆแล้วเรื่องมอมยาเนียะ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงนะคะที่จ้องจะโดนทำร้าย
ผู้ชายก็เคยโดนเหมือนกัน แต่โดนเพราะต้องการปลดทรัพย์ จุดประสงค์ต่างกันแต่ก็สร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้ผู้อื่นอยู่ดีแหล่ะ สวะสังคม เกิดมาชั่วโดยสันดานจริงๆ…
ดีนะคะที่ไม่เป็นอะไร ทุกวันนี้ขึ้นรถแท็กซี่ก็กลัวเหมือนกัน หากจำต้องขึ้นจริงๆ ก็นึกปลงตกซะก่อนเลยว่าถ้าตายก็ตาย(วะ) เพราะตัดสินใจแล้ว (แบบเตรียมใจเอาไว้ก่อนเลย) ไม่งั้นจะรู้สึกกังวลตลอดทาง แต่ก็ไม่ได้นอนใจหรอกนะคะ (ดูทางอยู่ด้วยเหมือนกัน) คนเราสมัยนี้ รู้หน้าไม่รู้ใจ บางครั้งขึ้นแท็กซี่เคยถามเขาก็บอกกลัวผู้โดยสารเหมือนกัน เฮ้อ..สรุปว่าไปแล้ว เรากลัวเขา เขากลัวเรา กลัวกันไปกลัวกันมา สังคมเราสมัยนี้..
มีอยู่วันนึงไปเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลแถวบางแค แต่กว่าจะเลิกงานก็เกือบ 3 ทุ่ม พอเยี่ยมญาติเสร็จจึงนั่งรถเมล์มาลงที่สนามหลวงเพื่อจะต่อรถไปแถวบางนา (ที่พัก)อีกต่อนึง เกือบเที่ยงคืนยืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้าย รถเมล์ก็น้อย สายที่รอก็ไม่มาสักที รอนานมากจนเที่ยงคืนจะครึ่งแล้วจึงตัดสินใจโบกรถแท็กซี่ (ในใจก็คิดว่า เอาหล่ะ..ถ้าไม่ขึ้นก็คงไม่รู้ว่าจะถึงบ้านตอนไหน ทางเข้าบ้านเราก็เป็นซอยด้วยลึกอยู่เหมือนกัน เอาหล่ะถ้าจะต้องตายกันวันนี้ ก็คิดซะว่าเป็นดวงหมดอายุขัยก็แล้วกัน) จากนั้นเลยตัดสินใจโบกแท็กซี่ (วินาทีนั้น..รู้สึกเหมือนกำลังจับฉลากลุ้นอะไรสักอย่าง) แต่โชคดีที่คืนนั้นโบกเจอคนขับแท็กซี่ดี ทำให้ไม่รู้สึกทรมานเวลานั่งอยู่ในนั้น (บางคันชอบชวนคุย(มาก)จนรำคาญ บางคันเปิดเพลงเสียงดังมากๆ คุยโทรศัพท์เสียงดัง ขับช้า(เกินความจำเป็น) จีบผู้โดยสาร (โดยเฉพาะคุณลุงๆคนขับ)..ฯลฯ) คืนนั้นพอก้าวลงจากรถ บอกกับตัวเองว่า .”เฮ้อ..ขอบคุณที่มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้ง.. มีชีวิตรอดไปได้อีก 1 วัน”
เรื่องนี้เคยได้รับ forword เมลล์จากเพื่อนอยู่บ่อยๆเหมือนกัน แทบไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆและอยู่ใกล้ต้วเรามากขนาดนี้ ต่อไปจะพยายามใช้บริการแท็กซี่ให้น้อยที่สุด เท่าที่จำเป็นจริงๆ และขอบคุณซือเจ๊ที่นำเรื่องนี้มาแบ่งปันให้ระวังตัวกันด้วยนะคะ ^^
โชคดีแล้วครับที่รอดออกมาได้ไม่งั้นคงได้นั่งรถเท็กซี่ตลอดชีวิตแน่ 5555
@siriluck ขอบคุณที่ร่วมแชร์ความรู้สึกคะ อ่านแล้วเข้าใจอารมณ์เลย การนั่งแท๊กซี่ระยะทางไกลๆโดยลำพัง ซือเจ๊ไม่เคยคิดจะนั่งเลยคะ เพราะรู้สึกว่ามันควบคุมลำบาก ส่วนใหญ่จึงเลือกนั่งใกล้ๆแถวบ้านซะมากกว่า มันรู้สึกว่าถิ่นเราจะไปทางไหนก็ไม่หลง เกิดไรขึ้นก็ยังพอตามหากันเจอหรือบอกจุดได้ถูก
แต่ว่าตอนนี้รู้ซึ้งแล้วว่า ไม่ว่าจะไกล้หรือไกลก็ไม่เป็นผล ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ไม่ใช่ประเด็นเช่นกันคะ สรุปพยายามอย่านั่งรถแท๊กซี่ไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นดีที่สุด ส่วนกรณีของคุณ siriluck ที่เล่ามา เป็นเจ๊ตัดสินใจนั่งกลับตั้งแต่โรงบาลแล้วหล่ะ ไม่มาต่อให้เสียเวลาหลายต่อ เพราะยิ่งดึกยิ่งน่ากัลัว แล้วตรงจุดเปลี่ยนรถคือสนามหลวงอีกตะหากน่ากลัวสุดๆ คราวหน้าไปไหนมาไหนก็อย่าพยายามกลับผิดเวลานะคะอันตรายจริงๆ
เมืองหลวงนี่ภัยรอบด้านจริงๆ อยู่ในห้องพักบางทียังบุกมาฆ่าถึงห้องอะไรของมันหนักหนาคนพวกนี้ จะออกจากบ้านถ้ามอเตอร์ไซต์ก็ต้องมานั่งลุ้นว่าจะถึงที่ทำงานปลอดภัยไหมวันนี้ นั่งแท๊กซี่ก็ต้องมาลุ้นว่าจะโดนมอมยาไหม..เดินกลับคนเดียวจะโดนฉุดไหม โดนปล้นไหม เฮ้อเป็นผู้หญิงนี่ลำบากเจงๆ แบบนี้ต้องรีบหาคนดูแลโดยด่วน 😛
ส่วนเรื่อง forword mail อ่านบ้าง ฟังไว้บ้างไม่เสียหายคะ เจ๊ก็รอดเพราะ forword mail นี่แหล่ะ แต่อย่างว่าเราจะเหมาว่าแท๊กซี่ไม่ดีไปหมดก็ไม่ได้เพราะบางคนชีวิตเขาก็ลำบากและน่าเห็นใจจริงๆก็มี นี่ถ้าทุกคนเลิกนั่งแท๊กซี่พวกเขาก็คงลำบากอยู่เหมือนกัน ผลจากการกระทำของคนชั่วเป็นห่วงโซ่แห่งความทุกข์ของมนุษย์โลกจริงๆ..
@yutphuket 😀
โชคดีจริงๆที่เธอไหวตัวทัน สงสัยจะต้องพกสเปรย์พริไทยซะแล้ว
@lek ขอเป็นปืนแทนได้ไหมคะเสปรย์พริกไทยมันเด็กไป อิอิ เชื่อไหมว่าวันนี้ซือเจ๊นอนพักทั้งวัน จนตอนนี้ฤทธิ์ยาก็ยังไม่หมดเลยคะ เฮ้อ..
ดีนะครับที่ยังมีสติ
แต่เจ้าตัวคนขับหื่นอะ ไม่มีผลจากยา ต้องกินไรต้านไว้แน่ๆ เลยคับ
ต้องเตือนเพื่อนๆ แฮะ น่ากลัวจริงๆ
สู้ๆ นะเจ๊ ยังไงก็แจ้งความไว้น่าจะดีกว่านะครับ ถ้ามีสติแล้ว
เพราะจำสีรถได้ ก็น่าจะช่วยยืนยันทะเบียนได้นะครับ
ให้ตำรวจเค้ารู้ไว้ก็ดีนะครับ
ปล เรื่องอย่างงี้ ผู้ชายก็กลัวเหมือนกันนะเนี่ย ต่อยไม่กลัว แต่กลัวยาสลบ
มาตอบในบล๊อก ผมโรแมนติกกับท้องฟ้าดาวและเดือนครับ 555
ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ แล้วผมจะเข้ามาอ่านบ่อย ๆ ครับ 🙂
ผมก็ไม่ค่อยอยากนั่งแท็กซี่มากครับ บางคันเขาหงุดหงิด ๆ กลัวไม่ถูกใจเขาแล้วเราจะโดนทำร้ายครับ 🙂 ทุกวันนี้เลยไปไหนมาไหน นานหน่อย555
ขอบคุณสวรรค์ที่เจ๊ปลอดภัยได้กลับมาเตือนเราๆ คนดีผีคุ้มเน๊อะ หลังจากดมขี้เต่าแท๊กซี่(โอ๊ะมิใช่ น้ำหอม) ต้องหาอากาศบริสุทธ์ดมให้เต็มปอดนะคะ ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้จริงๆ กฎหมายไทยน่าจะทำโทษแรงๆสำหรับคนที่คิดชั่วทางนี้โดยเฉพาะนะคะ
เจ๊โชคดีมากๆเลยที่ปลอดภัย
คราวหน้าเวลานั่ง taxi เจ๊ก็ส่งทะเบียนรถtaxi ไปให้แฟนหรือเพื่อนก็ได้อิอิ
จะได้ปลอดภัยไว้ส่วนหนึ่ง
คราวหน้าเจ๊อย่าสวยเกินหน้าเกินตาน่ะคร้า
ขอบคุณที่เอาสิ่งดีมาบอกเล่าจ้าจะได้ป้องกันตัวไว้
เมื่อกี้เข้าไปดูรูป WP Party ที่ OOtoya แล้ว ไม่สงสัยเลยว่า ทำม๊ายยยย taxi บ้านั่น จึงโปรยยาหอมเมื่อเจ๊ขึ้นรถ
… ก็สวยอย่างนี้นี่เอง
ขวัญเอ๊ย ขวัญมา … ขวัญมาอะยัง??
: )
@gangurru เจ๊ก็ว่างั้นแหล่ะ คุณ gangurru สงสัยเหมือนพี่สาวของซือเจ๊เลยคะ เค้าก็ถามว่าแล้วทำไมคนขับมันไม่ได้รับผลจากฤทธิ์ยาอืมมอันนี้เจ๊ก็ไม่รู้นะคะ แต่เจ๊ว่ามันได้นะ เพราะตอนที่เจ๊พยายามจะเปิดกระจก มันก็หันไปอุดจมูกมันไว้เหมือนกัน พอมันหันหน้ามาตอบคำถามจมูกมันก็แดงๆเหมือนคนกลั้นหายใจเหมือนกันคะ
ส่วนเรื่องแจ้งความ ซือเจ๊ไม่ค่อยชอบกฏหมายไทยเท่าไหร่ ต่อให้แจ้งไปจะทำอะไรได้หล่ะอย่างมากก็แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ขำๆแค่นั้นแหล่ะเพราะกฏหมายไทยต้องลงมือกระทำการสำเร็จก่อนจึงจะถือว่ามีความผิดแล้วก็ต้องมาตรวจสอบหลักฐาน แล้วคิดดูคนที่เขาโดนก็บอบช้ำจะแย่อยู่แล้วอับอายจนไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรแล้ว ยังจะมาตรวจอะไรของมันหนักหนาก็ไม่รู้ เรื่องแบบนี้ใครมันจะมาพูดเล่นวะ เจ๊ละงง
ด้วยเหตุนี้ จึงมักเห็นผู้หญิงที่โดนทำร้ายแล้วมักจะไม่กล้าไปแจ้งความไงคะ สุดท้ายพวกเขาจึงต้องมีชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็น ใครที่มันคิดจะก่อคดีข่มขืนแล้วอย่าลืมฆ่าให้ตายด้วยหล่ะ เพราะอยู่ไปก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่ดีแหล่ะ อีกอย่างกรณีแบบที่เจ๊เจอเนียะคุณgangurru คิดว่าตำรวจเขาไม่รู้หรือไม่มีข้อมูลหรือคะมันเกิดบ่อยเป็นรายวันเลยนะ จะบอกให้ช่วงนี้เริ่มระบาดหนัก เจอทั้งชายและหญิง บางทีจุดหมายอยู่ที่การปลดทรัพย์ผู้โดยสารด้วย
@เก่ง อิอิ สงสัยคุณเก่งจะมีแฟนชื่อดาว หรือไม่ก็เดือนหรือไม่ก็อะไรที่อยู่บนท้องฟ้า มั้งเนียะดูท่างทางชื่นชอบเป็นพิเศษ (หวังว่าคงไม่ใช่ชื่อ UFO นะ)
จริงๆแล้วแท๊กซี่ดีๆเขาก็กลัวผู้โดยสารลวงไปฆ่านะคะ บางทีดูข่าวก็เคยเห็นผู้โดยสารลวงแท๊กซี่ไปฆ่า เพื่อปล้นเงิน แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาขับมาทั้งวันมีเงินติดตัวเพียง 200 บาทหลังจากเติมน้ำมันเฮ้อ แบบนี้ก็น่าอนาถใจ จริงๆแล้วเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันพวกชั่วๆอะมันไม่น่าทำแบบนี้เลยคนอื่นเขาลำบาก และต้องการทำอาชีพนี้โดยสุจริตก็มีคะก็คงต้องเพิ่มความระมัดระวังกันทั้งผู้โดยสารและคนขับนั่นแหล่ะนะก็ไม่รู้จะแยกแยะยังไงเหมือนกันคะ
@HayaKa ขอบใจมากจ้า แต่ว่าขี้เต่ามันแรงมากมึนไป 2 วันเต็มๆเลยหล่ะ ฮ่าๆ ส่วนเรื่องกฏหมายเนียะ ปลงเจงๆมันไม่ทันสมัยเอาเสียเลย…
@mmkaew ขอบใจมากมน ฮื่อๆเอ็งจะให้เจ๊ส่งให้ใครก็บอกว่าเจ๊ไม่มีแฟน แงๆอยากส่งจะแย่ ส่งให้เพื่อนก็ไม่ได้เพราะไม่มีใครคบเจ๊เอ็งหว่ะ ส่วนเรื่องความสวยเจ๊จะจำไว้นะ ต่อไปจะไม่สวยในที่สาธารณะแล้วเจ๊สัญญา
ปล..หาหนุ่มๆให้เจ๊โหน่อยอยากมีคนดูแล… อิอิ 😛
@ขุนอรรถ เอ้า…งานเข้าเจ๊แล้วไหมหล่ะ…มากระตุกต่อมอยากดูรูปให้ชาวบ้านเขา เดี๋ยวได้แห่ไปดูกันหมดหรอก มือดีจริงๆอุส่าห์ไม่แปะ link ไว้แถวนี้แล้วนะคะ 😀 ตกลงซือเจ๊ผิดใช่ไหมเนียะที่สวย ฮ่าๆคุณอรรถแน่ใจได้ไงคะว่าดูไม่ผิดคน มีสาวๆมากกว่าหนึ่งคนนะคะในงานนั้นอ่ะ ที่ชมว่าสวยอาจจะไม่ใช่ซือเจ๊ก็ได้นะคะเพราะเจ๊เป็นมือกล้องไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ แฮ่ะๆ 😛
เสียดายที่คุณอรรถไม่ได้มาร่วมงานด้วย ไว้โอกาสหน้าถ้าจัดอีกก็เชิญมาด้วยกันนะคะ ..
ดีแล้วหล่ะ รอดมาได้ ทีหลังระวังตัวด้วยนะเจ๊ ไปไหนคนเดียว โทษฐาน ที่น่าตาดีเกินไป
โชคดีที่ผ่านมาได้นะคะ เจี๊ยบว่าคนเเบบนี้เด๋วมันก็ได้รับผลกรรม
สู้ๆนะ ระวังได้…เเต่อย่าระเเวงนะคะ
โชดคีแร้วเจ๊ที่รอดมาได้อ่า ขวัญเอ้ย ขวัญกลับมานะซือเจ๊ ด๊วบๆ
ต่อไป เจ๊ก้อต้องระวังมากๆๆ หนุกลัวไม่กล้าขึ้น taxi คนเดียวแล้วอ่า
สวยมากก้ออันตรายนะเราสองคนอ่า 555555555555
@imagine ไหนโฆษณามันบอกว่า “แล้วความสวยจะช่วยหนู” 😛
@jiab ตอนนี้มันไม่ใช่แค่ระวัง ระแวง แต่มันสยอง ขยาด ผวา แม่เจ้าหลอนยังไม่หายเลยเนียะ ..
@นุนิ ไอ้ “ด๊วบๆ” นี่มันอะไรฟร่ะเจ๊คิดลึกนะเนียะ ฮ่าๆ… 😛
เพิ่งมาอ่าน blog นะ … โอ้ว … น่าระทึกใจมากๆ เลย ยังไงก็ดีใจด้วยนะครับ ที่มีสติพาตัวเองรอดจากสถานการณ์ดังกล่าวออกมาได้อย่างปลอดภัยคับ
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์เน้อคัับ
งวดหน้าขอให้เจอ taxi ดีๆ ละกันคับ
@udom ขอบคุณมากคะพี่ A ตอนนี้อาการตกใจและหวาดผวาก็ดีขึ้นมากแล้วคะว่าแต่พี่ A อาการดีขึ้นหรือยังคะ วันนั้นเห็นหน้าตาดูเหมือนคนไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แต่เห็นเม้าท์กระจายกะพี่เล็กก็เลยคิดว่าคงไม่เป็นไรมากมั้งเนียะ แล้วได้มีโอกาสแวะไปดูรูปบ้างหรือยังคะ ว่างๆอย่าลืมแวะไปชมเน้อ.. 😛
@ซือเจ้
ตอนนั้นน่ะ ยังปกติดีอยู่เลยค้าบ มาออกอาการกันจริงๆ จังๆ ก็เช้าวันจันทร์นี่แหละครับ หุหุ … ว่าแต่ภาพไปชมที่ใดรือ? หา link บ่เจอจ้า
เท็กซี่ มารสังคมจริงๆ เลย
ได้แวะเข้ามาอ่านฟลุคๆ ก็เป็นกำลังใจให้ ปลอดภัยมีสติ เป็นข้อเตือนใจสำหรับคนอื่นๆ ครับ หายวิงเวียนเร็วๆ และไม่เจอเรื่องร้ายๆ อีก
ถ้าเป็นไปได้ แจ้ง ตำรวจ จับมันเลย 😀
@udom อ้าวเหรอคะซือเจ๊กลับรู้สึกว่า หน้าตาพี่ A ดูพะอืดพะอม ไม่สดชื่นดุเนือยๆแต่ว่าก็ไม่กล้าทักเพราะพึ่งเคยเจอกันตัวเป็นๆครั้งแรกคะ ส่วนเรื่อง link เจ๊วานให้ someone ส่งให้แล้วนี่นา..ไม่เป็นไรคะเด๋วเจ๊ส่งให้ทางเมลล์น๊า.. 😛
@kajarp ขอบคุณที่บังเอิญผ่านมา และยินดีต้อนรับนะคะ และขอบคุณที่ทนอ่านจนจบเพราะมันยาวมากแต่ก็หวังว่าข้อความยาวๆแบบนี้ ถ้าใครเสียเวลาอ่านจนจบแล้ว มันคงช่วยอะไรเขาได้บ้างนะคะ 😛
ว่าจะฟอร์เวิร์ด ให้เพื่อนๆ คนอื่น ได้รู้ด้วย เพราะเรื่องนี้ ยังสดใหม่หอมกรุ่นจากเตา น่ากลัวมาก ไม่คิดว่ามันยังจะมีอีก
@kajarp อ้อได้คะตามสบายเลยแต่ขอเป็นส่ง link ให้แทนได้ไหมคะเจ๊ไม่อยากให้ชีวิตเจ๊เป็นเมลล์ forward ค่ะก็แจ้งเพื่อนๆเข้ามาอ่านได้แต่อย่า copy ไปลงเมลล์แล้วส่งกันไปเรื่อยเลยคะขอร้องเยอะๆเพราะเจ๊กลัว ตอนนี้บอกได้เลยว่าการมอมยาผู้โดยสารกำลังกลับมาระบาดอีกระรอกแล้ว ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้บริการด้วยนะคะ 😛
@ซือเจ้
ได้รับเมลล์แล้วนะขอรับ … ว่าจะเข้าไปกินพุดเดิ้ลซะหน่อยน่ะ 555 😀
@udom แงๆกินเผื่อเจ๊ด้วยน๊า..วันนั้นเจ๊อิ่มไปหน่อยคะเลยชิมไปนิดเดียว
แต่ว่าถ้ากินตอนท้องว่างๆคงจะอร่ายดี รู้สึกว่ามันรสละมุนนุ่มลิ้นมากๆเลยเดี๋ยวไว้วันหลังเจ๊แวะเวียนไปกินบ้างนะคะ ว่าแต่มันชื่อจริงๆว่าอะไรนะเจ๊เรียกแต่ พุดเดิ้ล ฮ่าๆ… ผู้รู้เขาบอกมาเอิ๊กๆฮากระจายกันทั้งโต๊ะ 😀
@ซือเจ้
พุดเดิ้ลที่ว่านี้มีชื่อจริงว่า “บรามันเจะ” น่ะครับ … ทำมาจากน้ำเต้าหู้เอาไปปั่นๆ แช่เย็นให้แข็งตัวหยุ่น ๆ กินพร้อมน้ำตาลดำเคี่ยว หรอยจังฮู้ 😀
@udom อิอิขอบคุณมากคะ อุส่าห์แวะเวียนมาตอบคำถามพร้อมรายละเอียดอีกรอบ สมเป็นเจ้าพ่อนักชิมเจงๆ 😛
เกือบไปแระเมิง เกือบได้นั่งแท๊กซี่ฟรีตลอดศกแล้วมะละ
แต่ก้อดี จะได้ระวังตัว บอกพี่ๆน้องๆ ด้วย
ฟาดเคราะห์ไปแระ ก้อขอให้โชคดี เฮงๆ นะเพื่อน
@นังครูหื่น ขอบใจมากหว่ะ ฝากเตือนเด็กๆในคอนโทลแกด้วยแล้วกัน ถึงแม้ว่าเวลาโดนมันมอมยาจะไม่ได้สลบในทันที แต่ถ้าไม่แอะใจก็มีสิทธิ์ฟื้นโรงแรมหว่ะ … เพื่อนก็เหมือนกันไปไหนก็ระวังด้วยนะ ไม่จำเป็นอย่าทำตัวสวยในที่สาธารนะหล่ะเจ๊เป็นห่วง คิดถึงๆอิอิ…
น่ากลัวเหมือนกันนะครับ
กลางวันแสกๆเลยหรือนี่
โอ้…น่ากลัวมั่กๆ
@happyaku ก็ไม่ต้องกลัวมากจนหลอนก็ได้คะ แต่อยากให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นหน่อยหนึ่งแล้วกันคะ เพราะจริงๆเวลาโดนยามันก็ไม่ใช่โดนปุ๊บหลับปั๊บ ยังพอมีเวลาให้หนีรอดได้แต่ต้องรู้ตัวก่อนนะคะ ยังไงก็ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยนะคะ สวัสดีปีใหม่คะ 😀
อิจฉาซือเจ๊มากๆค่ะ
ที่ได้มีโอกาสประสบเรื่องราวแบบนี้
เพราะมันหมายถึงว่าซือเจ๊สวย มีเสน่ห์เตะตา
คิดดูสิคะ ถ้าไม่สวยใครจะอยากพาไปลวนลามล่ะคะ
สบายใจได้แล้วล่ะค่ะ
ว่าซือเจ๊น่ะสวยจนมีคนอยากจะพาไปวัดไปวาเชียวนะ
หนูก็ว่าตัวเองไม่ขี้เหร่นะ
แต่ยังไม่เคยประสบเหตุการณ์อย่างนี้เลย
หรือมันเป็นเพราะว่าแท็กซี่”กิน”หนูไม่ลงคะ
หนูเครียดนะเนี่ย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ปล.ใครด่าซือเจ๊แจกลิงค์มาค่ะ หนูจะไปจัดการให้
@Nonglax.Net ฮ่าๆพูดซะ..เรื่อง blog คนนั้นช่างเขาเถอะเจ๊ไม่คิดอะไรแล้ว ถ้าเขาเลือกที่จะมองโลกแค่มุมเดียวก็คงต้องปล่อยเขาไป คนแบบนี้ต้องให้เจอด้วยตัวเองถึงจะเชื่อว่าเรื่องพวกนี้มีอยู่จริง.. ล่าสุดมีแท๊กซี่เล่าให้ฟัง ว่าโดนผู้โดยสารมอมยารูดทรัพย์ซะงั้น..เป็นงั้นไปสังคมสมัยนี่น่ากลัวสุดๆ
ผลพวงจากการประสบเหตุครั้งนั้น..ทำให้ซือเจ๊ไม่กล้าทำตัวสวยในที่สาธารณะ ไปไหนมาไหนแต่งตัวน้อยลง ออกแนวยาจกนิดๆ ใครเจอซือเจ๊แล้วหน้าตาไม่ดีเหมือนในรูปไม่ต้องตกใจนะ ช่วงนี้งดสวยในที่สาธารณะเป็นการชั่วคราว อิอิ… ยังไงก็ขอบใจ Nonglax ที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนนะคะ ไว้ซือเจ๊จะไปลุยเมื่อไหร่และต้องการกำลังเสริมจะแจ้งให้ทราบอีกที (มือตบระดับโลก)อิอิ
ปล.มัวทำเป็นเล่นไป เรื่องแบบนี้พลาดมาแล้วจะยุ่ง ชีวิตเปลี่ยนเลยนะ..ยังไงจะไปไหนมาไหน ก็ขอให้ระมัดระวังตัวด้วยนะคะ บางทีหน้าตาไม่เกี่ยวหรอกมันเป็นจังหวะคนมันจะซวยมากกว่า ซือเจ๊คิดว่าไม่เจอเป็นดีที่สุดคะ..เป็นห่วงคะ..
เป็นความโชคดีของแท๊กซี่จริง ๆ เลยครับ เอ้ย!!! ของซือเจ๊ จริง ๆ เลยครับ อิอิอิ ดีที่ไหวตัวทัน ถึงขนาดที่ว่าแค่ 3 คันเองเนี่ยมันก็ยังไง ๆ อยู่น่ะ ถึงจะกลางวันก็เถอะน่ะ ถ้าเราโดนมอมยา มันจะเอาที่ไหนก็ได้ครับ แบบนี้น่าเป็นห่วงสำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว แต่สำหรับซือเจ๊คงหายห่วงอ่ะน่ะ อิอิอิ คราวหลังก็ดูดี ๆ ครับ ผมว่าถ้าเป็นไปได้รถไฟฟ้าก็เป็นทางออกที่ดีน่ะ เอาให้ใกล้ที่สุดแล้วหลังจากนั้นค่อยนั่งแท๊กชี่ ก็น่าจะดี ถ้าแบบเดินทางไกล ๆ เนี่ยน่ากลัวครับ
@hmu111 ช่วงนั้นเจอกันเยอะคะ แต่ไม่รู้ว่าใครรอด หรือไม่รอดบ้างแค่นั้นเอง ..